กติกาเกมป๊อกเด้ง

มีการใช้ไพ่ 8 สำรับและจะไม่มีการใช้ไพ่โจ๊กเกอร์ในเกม

ในตอนเริ่มต้นของขอนแจกไพ่ใหม่ คนแจกไพ่จะสับไพ่และเสียบ “ไพ่ตัด” เข้าไปในขอนแจกไพ่

จากนั้น คนแจกไพ่จะจั่วไพ่จากขอนแจกไพ่และหงายไพ่ นี่จะเป็นการกำหนดว่าคนแจกไพ่จะทิ้งไพ่กี่ใบ ค่าป๊อกเด้งของไพ่จะเป็นตัวกำหนดจำนวนไพ่ที่จะทิ้ง - ยกเว้นไพ่เลข 10 หรือไพ่หน้าซึ่งจะส่งผลให้ทิ้งไพ่ 10 ใบ

เมื่อคนแจกไพ่จั่ว “ไพ่ตัด” รอบปัจจุบันจะกลายเป็นรอบสุดท้าย จะมีการจั่วไพ่เพิ่มเพื่อเล่นรอบนี้ให้จบ

หลังจากรอบสุดท้าย ไพ่ทั้งหมดจะถูกสับและวางเข้าไปในขอนแจกไพ่เพื่อเริ่มขอนแจกไพ่ใหม่

มีตัวเลือกในการเดิมพันอยู่ 10 ประเภท:

วิธีการชนะ

เพลย์เยอร์ 1 ถึงเพลย์เยอร์ 5

เพลย์เยอร์ 1 ถึงเพลย์เยอร์ 5 จะเปิดไพ่ของพวกเขาเพื่อเทียบมือกับแบงค์เกอร์แบบตัวต่อตัว มือที่มีค่าแต้มบนหน้าไพ่สูงกว่าคือผู้ชนะ

เพลย์เยอร์ 1 คู่ ถึงเพลย์เยอร์ 5 คู่

ผู้เล่นคู่จะชนะหากมือของผู้เล่นที่เกี่ยวข้องเป็นคู่

รูปแบบการเล่น

รับเดิมพันหลังจากเริ่มนับถอยหลัง

ในตอนเริ่มต้นของรอบ คนแจกไพ่จะจั่วไพ่หนึ่งใบ (หน้าคว่ำลง) จากขอนแจกไพ่ ไพ่ใบนี้จะถูกทิ้ง จากนั้น คนแจกไพ่จะจั่วไพ่สองใบให้กับผู้เล่นแต่ละคน โดยแบงค์เกอร์จะเป็นคนสุดท้าย

ลำดับการแจกไพ่ของเกม:

เมื่อเวลานับถอยหลังหมดลงจะไม่สามารถวางเดิมพันได้แล้ว แบงค์เกอร์จะหงายไพ่ของทุกคนโดยเริ่มจากเพลย์เยอร์ 1 ไปจนถึงเพลย์เยอร์ 5 และแบงค์เกอร์เป็นคนสุดท้าย

ผู้เล่นแต่ละคนจะเทียบมือของเขาหรือเธอกับมือของแบงค์เกอร์

9 แต้มคือค่าที่สูงที่สุด ในขณะที่ 0 แต้มต่ำที่สุด ไพ่แต่ละใบมีค่าแต้มดังนี้: A = 1; 2-9 = ค่าตามหน้าไพ่; 10, J, Q และ K = 0

ค่าของมือจะถูกระบุที่หลักหน่วยหลังจากบวกค่าของไพ่ทั้งสองใบเมื่อเกิน 9 แต้มแล้ว ตัวอย่างเช่น หากไพ่ทั้งสองใบคือ 8 และ 7 บวกรวมกันแล้วได้ 15 และค่าของมือนี้คือ 5 แต้ม

สำหรับเพลย์เยอร์ 1 คู่ ถึงเพลย์เยอร์ 5 คู่ ผู้เล่นคู่จะชนะหากมือที่ได้เป็นคู่

การจ่ายเงิน

ประเภททั่วไป

ประเภทผู้เล่นคู่

รูปแบบพิเศษ

เมื่อไหร่ก็ตามที่แบงค์เกอร์หรือผู้เล่นชนะในรอบนั้นด้วยรูปแบบพิเศษ (ฟลัช, หนึ่งคู่หรือมือใดก็ได้ที่ระบุไว้ในไพ่ชุดพิเศษ) อัตราจะกลายเป็น 2:1. (สำหรับข้อยกเว้น โปรดดูส่วนหมายเหตุ)

ไพ่ชุดพิเศษ

เมื่อไพ่ชุดพิเศษที่ระบุไว้ในตารางด้านล่างนี้ปรากฏขึ้นค่าของมือนั้นจะถือว่าอยู่ระหว่าง 7 และ 8 แต้ม

หมายเหตุ

1. เมื่อมีผู้เล่นเดิมพันกับเพลย์เยอร์ 1, เพลย์เยอร์ 2, เพลย์เยอร์ 3, เพลย์เยอร์ 4 หรือเพลย์เยอร์ 5 ระบบจะหักยอดคงเหลือของผู้เล่น 2 เท่าของ “จำนวนที่เดิมพัน” ผู้เล่นควรตรวจสอบดูว่ามียอดคงเหลือเพียงพอหรือไม่
2. โดยทั่วไปแล้ว อัตราเด้งควรเป็น 1:1 เมื่อเดิมพันกับเพลย์เยอร์ 1, เพลย์เยอร์ 2, เพลย์เยอร์ 3, เพลย์เยอร์ 4 หรือเพลย์เยอร์ 5
3. หากแบงค์เกอร์ชนะด้วยฟลัช, หนึ่งคู่ หรือไพ่ชุดพิเศษใดก็ได้ที่ระบุไว้ในตารางด้านบน อัตราเด้งเมื่อแพ้จะเป็น 2:1 (ดูตัวอย่างที่ 4 และ 6)
4. เมื่อผู้เล่นชนะด้วยฟลัช, หนึ่งคู่ หรือไพ่ชุดพิเศษใดก็ได้ที่ระบุไว้ในตารางด้านบน อัตราเด้งเมื่อชนะจะเป็น 2:1 ( ดูตัวอย่างที่ 3)
5. เมื่อแบงค์เกอร์มี 0 แต้มหรือ 6 แต้ม แม้ว่าผู้เล่นจะชนะรอบนั้นด้วยฟลัช, หนึ่งคู่ หรือไพ่ชุดพิเศษใดก็ได้ที่ระบุไว้ในตารางด้านบนก็ตาม อัตราเด้งเมื่อชนะจะยังคงเป็น 1:1 ( ดูตัวอย่างที่ 8)
6. เมื่อผู้เล่นมี 8 แต้มหรือ 9 แต้มโดยที่มีฟลัชหรือหนึ่งคู่ แม้ว่าแบงค์เกอร์จะมี 0 แต้มหรือ 6 แต้มก็ตาม อัตราเด้งเมื่อชนะจะยังคงเป็น 2:1 (ชนะข้อที่ 5) ( ดูตัวอย่างที่ 9)

ตัวอย่าง

คำอธิบายแผนงาน

สัญลักษณ์		คำอธิบาย
วงนอก		ฟลัช
จุดสีเหลือง		คู่
วงกลมสีน้ำเงิน		ผู้เล่นชนะ
วงกลมสีเทา		ผู้เล่นแพ้
วงกลมสีเขียว		ผูก

การจัดการกับข้อผิดพลาด

หากเครือข่ายเกิดข้อผิดพลาดหรือวิดีโอหยุดลงระหว่างเกมที่เริ่มเล่นไปแล้ว กฎของบริษัทระบุไว้ว่าเกมจะต้องดำเนินต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้น เมื่อการเชื่อมต่อเครือข่ายกลับมาทำงานต่อ ผลลัพธ์สุดท้ายจะถูกสรุปออกมา หากเกมยังไม่เริ่ม เกมจะถูกยกเลิกและเงินเดิมพันทั้งหมดจะถูกคืนหมด

ในบางกรณีเครื่องสแกนอาจอ่านไพ่ไม่สำเร็จ ในสถานการณ์เช่นนี้ แบงค์เกอร์จะสแกนไพ่อีกครั้งจนกว่าระบบจะตีความได้

ภาคผนวก

อัตราการจ่ายเงินคืนให้กับผู้เล่นสูงสุดของเกมนี้คือ 98.35%